บทความให้กำลังใจ ข้อความให้กำลังใจ ตอนที่ 6

อยู่อย่างไรให้เป็นสุข
(คำถามจากสมาชิกเพจ www.facebook.com/ThanavuddhoStory)

         ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากสุขระดับไหน ถ้าระดับแรกแบบคนปกติทั่ว ๆ ไป ก็ต้องยอมเหนื่อยและวุ่นวายหน่อย คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า คนในโลกส่วนใหญ่มีความสุขได้เพราะ 4 เรื่องนี้ คือ

     1. มีเงินทองทรัพย์สมบัติ 
     2. ได้ใช้เงินนั้น
     3. ไม่มีหนี้สิน
     4. ทำงานสุจริต เป็นสัมมาชีพ

          ที่ว่าต้องเหนื่อยและวุ่นวายก็เพราะความสุขแบบนี้ต้องอาศัยเงินทองเป็นหลัก เท่ากับถูกบังคับว่า ต้องขยันทำมาหากิน ครั้นได้เงินมาแล้วเมื่อถึงคราวใช้ ก็ต้องใช้ให้เป็น เช่น เอาไว้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว, ใช้ลงทุนในธุรกิจการงาน, เก็บออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน และใช้ทำบุญ เพราะความสุขความสำเร็จทั้งหลายเกิดขึ้นได้ด้วยบุญของเรา จึงต้องหมั่นสั่งสมบุญบ่อย ๆ ทั้งทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิ(Meditation)ภาวนา เป็นต้น อย่าเอาเงินไปใช้ผิด ๆ โดยเฉพาะกับอบายมุขเด็ดขาด 

        การใช้เงินก็อย่าให้สุรุ่ยสุร่ายมือเติบเกินไป ไม่อย่างนั้นหามาได้เท่าไหร่ก็ไม่พอ สุดท้ายก็ต้องกู้หนี้ยืมสินให้ทุกข์ใจอีก

        เงินทองทั้งหลายที่หามาได้ก็เพราะทำงาน งานหรืออาชีพที่เราทำก็ต้องเลือกทำเหมือนกัน คือให้ทำงานที่สุจริต ไม่ผิดศีลผิดธรรม เป็นสัมมาชีพที่ไม่ก่อบาปกรรมให้กับตนเอง เช่นไม่ค้าขายเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด, เลี้ยงสัตว์เพื่อฆ่า, ขายยาพิษ, ค้ามนุษย์ เป็นต้น

         ส่วนความสุขอีกระดับ เป็นความสุขที่ดีกว่าระดับแรกมากทีเดียว คือสุขที่เกิดจากความสงบหยุดนิ่งของใจ ทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยการเจริญสมาธิ ภาวนา สุขแบบนี้ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องวุ่นวาย แถมทำได้ง่าย ๆ เพราะไม่ต้องใช้อะไรเลย นอกจากทำใจหยุดนิ่งเท่านั้น เป็นความสุขที่เกิดภายในใจของเราเอง ไม่ต้องอาศัยวัตถุอื่นใดในโลก เป็นสุขที่พระท่านอยากได้ที่สุด 

          อุปมาสุขแบบหลังเหมือนพระอาทิตย์ที่มีความสว่างในตัว ไม่ต้องอาศัยใคร สุขแบบแรกเหมือนดาวเคราะห์ จะสว่างได้ก็ต้องอาศัยแสงจากพระอาทิตย์มาช่วยเติมเต็ม

         เราก็เลือกเอาเถอะ ถ้าอยากได้แบบแรกก็ขยันทำงานหน่อย แต่ถ้าอยากได้แบบหลังด้วย ก็ให้ขยันนั่งสมาธิเป็นประจำทุกวัน หรือถ้าอยากให้ได้ผลจริงจัง มาลองบวชด้วยกันสักพรรษาหนึ่งก็น่าจะดี
พระคุณแม่ แม่ยอมตาบอด เพื่อเก็บเงินไว้ทำนาเลี้ยงลูก


       แม่ปุ้ย จันทรี อายุ 60 ปี มีอาชีพทำนาอยู่ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มีลูก 12 คน อุบัติเหตุ เงี่ยงปลากระเด็นเข้าตา แต่ไม่ยอมไปรักษา ทำให้ดวงตา 1 ข้างบอดสนิท ส่วนอีกข้างมองเห็นแค่ลางๆ

        ท่านเล่าว่า "ที่ไม่ไปรักษา เพราะอยากเก็บเงินไว้ทำนาปลูกข้าวให้ลูกกิน ถ้าไม่ทำก็กลัวเขาจะอด ตามันจะบอดก็แล้วแต่มัน..มันจำเป็น คนเป็นแม่ก็เป็นอย่างนี้ ตายแทนลูกได้ เป็นแทนลูกได้ ยิ่งตอนอุ้มท้อง ยิ่งลำบาก หายใจก็ไม่ทั่ว อึดอัด เดินก็ไม่สบาย นั่งก็ไม่สบาย ตอนคลอดตอนเบ่งใจจะขาดเลยนะ แต่ไม่ว่าจะได้ลูกชายลูกหญิง ต่อไปไม่ว่าเขาจะดีหรือเลว..แม่ก็รักหมด รักเสมอกันทุกคน ลูกร้องไห้แม่ก็ร้องด้วย เห็นเขาดีใจแม่ก็ดีใจด้วย

        ถ้าเขาไปไหนกลับบ้านผิดเวลา โอ...เราก็นั่งไม่ติดแล้ว กลัวเขาจะถูกทำร้าย ให้เลี้ยงเขาลำบากขนาดไหนแม่ก็ทน สู้เลี้ยงให้โต โตแล้วเขาจะแบ่งให้แม่กินหรือไม่แบ่ง..ก็ช่างเขา เขาจะดูแลแต่ลูกแต่ครอบครัวของเขา..ก็แล้วแต่เขา แค่เขาหากินได้ดูแลตัวเองได้แม่ก็พอใจภูมิใจ

         แต่แม่ก็มีความปรารถนา แม่คิดมาตั้งแต่เขาเป็นหนุ่มๆแล้วอยากให้เขาบวชให้ แต่ก็ยังไม่ได้บวชสักที ถ้าเขาบวช ไอ้ที่เคยทำกรรมกับแม่ เถียงแม่ เคยคิดเกลียดแม่ชังแม่ เขาจะได้พ้นบาปพ้นกรรมสักหน่อย เขาจะได้ดีขึ้นสักหน่อย แม่นี่ไม่ได้บุญได้กุศล..ก็ช่างมัน ขอให้ลูกพ้นเวร พ้นเคราะห์ ไม่บาปหลาย ไม่กรรมหลาย ให้เทวดาสาธุยกโทษให้ แค่นี้แม่ก็พอใจ

        มาคราวนี้โชคดีได้เจอโครงการแสนรูป เขาก็มาบอกว่าเขาจะบวชให้ แม่ดีใจหลายๆ ในใจแม่คิดว่าถึงเขาไม่ได้ไปรับจ้างให้แม่ได้กินได้ใช้..ก็ช่างมันเถอะ แค่เขาบวชให้แม่ก็ปลื้มหลายภูมิใจหลาย ก็อยากเห็นผ้าเหลืองของลูกเต็มหูเต็มตาทั้งสองข้าง แต่มันเป็นไปไม่ได้ แค่เห็นลางๆก็เอา ถ้าแม่ตาย ได้ดึงชายผ้าเหลืองลูกไว้ ให้พ้นลำบากสักนิด ดึงแม่ขึ้นสวรรค์ให้พ้นกรรม แม่ภูมิใจดีใจหลายๆ..เลือดเนื้อของแม่บวชให้แม่แล้ว"
แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง

บทความให้กำลังใจ

เพราะโอกาสในการเกิดมาเป็นมนุษย์เกิดขึ้นได้ยาก

ต้องอาศัยกำลังความเพียรในการสั่งสมความดีอย่างยิ่งยวด

พระพุทธองค์ทรงอุปมาความยากในการเกิดเป็นมนุษย์ไว้ว่า

        “ในท้องทะเลกว้างใหญ่สุดจะประมาณ มีเต่าตาบอดทั้งสองข้างอยู่ตัวหนึ่ง ทุกๆ หนึ่งร้อยปี จะโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ 1 ครั้ง และในท้องทะเลนี้มีห่วงที่พอดีกับหัวเต่าลอยอยู่อันหนึ่ง โอกาสที่เต่าตาบอดจะโผล่หัวขึ้นมา แล้วเอาหัวสอดเข้าไปในห่วงพอดี มีความยากเพียงใด โอกาสที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์นั้น มีความยากยิ่งกว่า”

       เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ถือว่าพวกเราเป็นผู้มีบุญลาภอันประเสริฐ ไม่ควรประมาทในการดำเนินชีวิต ต้องรีบขวนขวายสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 ทัศ

       อย่างน้อยที่สุด ก็ควรหมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาให้ได้ทุกๆ วัน เมื่อถึงคราวบุญบารมีเต็มเปี่ยม เราจะได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของพวกเราทุกคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น




Popular Posts

โพสต์แนะนำ

“อย่ายอมแพ้เพียงเพราะรู้สึกว่ามันนานเกิน เวลาไม่เคยหยุดนิ่งอยู่แล้ว”

“อย่ายอมแพ้เพียงเพราะรู้สึกว่ามันนานเกิน เวลาไม่เคยหยุดนิ่งอยู่แล้ว” — Earl Nightingale  / นักเขียนและสร้างแรงบันดาลใจ